ทนายพงศ์รัตน์ รัตนพงศ์ น.บ.ท.64 ผู้เรียบเรียง
ทนายจำเลยต่อสู้คดีตามแนวฎีกากันอย่างไร
เรื่องที่ 30 ฟ้องเช็ค กับ ทางออกที่เหมาะสมของคดีอาญาเกี่ยวกับเช็ค
คดีหลัง เป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาเกี่ยวกับเช็ค ซึ่งจำเลยชำระหนี้ ตามสัญญากู้ยืมเงิน เป็นเช็ค 2 ฉบับ ก่อนฟ้องคดี น้าสิด ได้เจรจาผ่อนผันการชำระหนี้กันถึง 3 ครั้ง แม้ฟ้องคดีแล้ว ก่อนศาลพิจารณา ก็ยังให้โอกาสจำเลยผ่อนชำระ (ให้โอกาสแปลงหนี้ใหม่ หรือเอาทรัพย์อื่นตีใช้หนี้ เพื่อจะถอนฟ้องให้ แต่จำเลยกลับต่อสู้ และอยากให้ศาลสืบพยาน โดยเชื่อตามที่ทนายจำเลยแนะนำว่า มีทางชนะคดี 100% เพราะเป็นเช็คค้ำประกันและเช็คไม่ลงวันที่)
ก่อนวันสืบพยาน ฝ่ายโจทก์และทนายโจทก์ ต้องเตรียมคดีกันมาก ไม่มีใครไม่เครียด เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ ยิ่งเครียดกว่าทนาย (น้าสิดคาดว่า ฝ่ายจำเลยและทนายจำเลยก็มีความเครียดเช่นกัน คือ เครียดจากการเป็นหนี้ และ เครียดจากความกังวลว่าจะแพ้คดี แล้วติดคุก)
เมื่อขึ้นศาลวันนี้ น้าสิด พยายามพูดกับทนายจำเลยว่า ทางโจทก์ให้โอกาสผ่อนผันการชำระหนี้ ทำไมไม่รับ โจทก์ฟ้องคดี เพื่อหวังเงินคืนเท่านั้น ทำไมไม่ผ่อนชำระ หรือคิดว่า ถ้าชนะคดีแล้ว ไม่ต้องชำระหนี้เลยหรืออย่างไร หรือคิดว่า จ่ายค่าทนายแค่ 3 หมื่นบาท แล้วจะชนะคดี ไม่ต้องชำระเงินกู้ 5 แสนบาทหรือ ???
ต่อมาเมื่อศาลนั่งบัลลังก์ ศาลไกล่เกลี่ยว่า เรากู้เขาจริง ก็น่าจะผ่อนชำระ ที่ต่อสู้มา ศาลก็จะฟัง แต่ถ้าฟังไม่ขึ้น ศาลลงเต็มเลย ศาลอยากให้คุยกันก่อน สัก 10 นาที แล้วค่อยสืบ
ท้ายที่สุด จำเลยและทนายจำเลย เปลี่ยนใจแก้คำให้การเป็น รับสารภาพ ขอผ่อนชำระ (น่าจะเป็นเพราะ ทางโจทก์และทนายโจทก์ มีหนังสือของจำเลยเขียนถึงโจทก์ว่า "ตามที่จำเลยได้กู้ยืมเงินจากโจทก์ จำนวน 5 แสนบาท และได้ชำระหนี้เป็นเช็ค เลขที่..... ของธนาคาร..... ลงวันที่........จำนวน........บาท จำเลยขอผ่อนชำระเดือนละ 5 พันบาท ถ้ามีมากกว่า จะชำระให้มากกว่านี้ แล้วลงลายมือชื่อจำเลย)
ทางออกที่เหมาะสม ที่ศาลท่านให้ความยุติธรรมทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยในวันนั้น ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณา ซึ่งน้าสิดขออนุญาตดัดแปลง แล้วนำมาลงไว้ที่ Thai Law Consult โทร. 081-759-8181 เพื่อประโยชน์ในการศึกษากฎหมายของประชาชน มีดังนี้
"นัดสืบพยานโจทก์วันนี้ โจทก์ ทนายโจทก์ จำเลย และทนายจำเลยมาศาล ศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังแล้ว จำเลยให้การรับสารภาพตามคำให้การของจำเลย ฉบับลงวันที่วันนี้
โจทก์และจำเลยไม่ติดใจสืบพยาน
คดีเป็นอันเสร็จการพิจารณา
ให้รอฟังคำพิพากษาวันนี้
คู่ความทั้งสองฝ่ายแถลงร่วมกันว่า จำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามฟ้องเป็นเงินจำนวน 5 แสนบาท โดยขอผ่อนชำระให้แก่โจทก์ดังนี้ งวดแรกจำนวนไม่น้อยกว่า 8 พันบาท จะชำระภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2556 และจะชำระเงินจำนวนดังกล่าวภายในสิ้นเดือนของเดือนถัดไป จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2557 กับจะชำระเป็นเงินจำนวนไม่น้อยกว่าเดือนละ 17,000 บาท จนกว่าจะครบ ภายในเดือน กันยายน 2558 โดยการนำเงินดังกล่าวมาวางศาล หากจำเลยชำระหนี้ตามฟ้องข้างต้นจนครบถ้วนแล้ว โจทก์จะดำเนินการถอนฟ้องจำเลยไป แต่หากจำเลยผิดนัด ผิดสัญญา ขอให้ศาลอ่านคำพิพากษา สำหรับวันนี้ ขอให้ศาลเลื่อนคดีออกไปก่อน
อนุญาตให้เลื่อนคดีในวันนี้ไป โดยให้ไปนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 27 มีนาคม 2557 เวลา 09.00 น.
จำเลยไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ให้งดหมายขัง
ให้จำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความ และให้ยกเลิกนัดทั้งหมด./อ่านแล้ว"
ทีมทนาย Thai Law Consult ซึ่งประกอบด้วย น้าสิด ทนายพงศ์รัตน์ รัตนพงศ์, พี่ตุ๊กตา ทนายณุมาพร พัฒนพงศธร, ทนายน้อย ปราธูป ศรีกลับ, ทนายอู๋ อุดมศักดิ์ ศักดิ์ธงชัย น.บ.ท.64, ทนายสมบัติ บุญสุทัศน์ น.บ.ท.63, ทนายสาวิตรี จิตซื่อ หาดใหญ่ เห็นว่า รายงานกระบวนพิจารณามีความเป็นธรรมต่อโจทก์ ถ้าหากจำเลยไม่ชำระหนี้ภายใน 6 เดือน โจทก์อดทน รอคอยแค่ 6 เดือน ศาลกำหนดให้ทั้งสองฝ่ายมาศาลโดยอัตโนมัติ ฝ่ายโจทก์ไม่ต้องร้องศาลให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ ฝ่ายจำเลยก็ได้รับการผ่อนผันการขยายเวลาชำระหนี้ออกไปโดยไม่ต้องกังวลเรื่องดอกเบี้ยและทนายจำเลยก็ไม่ต้องกังวลว่า ลูกความของตนจะไม่มีวินัยในการชำระหนี้
นี่เป็นทางออกที่เหมาะสมของคดีอาญาเกี่ยวกับเช็ค หรือ ฟ้องเช็ค วันนี้คือวันรพี 2556 ครับ