ทนายณุมาพร พัฒนพงศธร น.บ.ท.64 เรียบเรียง
ยกหูถึง "พี่ตุ๊กตา"

 

เรื่องที่ 23      นิติเอาประกันภัย All Risks น้ำท่วมห้องชุด ไหลนองลงลิฟท์
บ.ประกันเรียกค่าซ่อมลิฟท์คืนจากเจ้าของห้องชุดได้หรือไม่


                    อาทิตย์ที่แล้ว คุณหมอท่านหนึ่่ง แห่งโรงพยาบาลศิริราช กทม. ส่ง e-mail มาสอบถามทีมทนาย Thai Law Consult ว่า ท่านเป็นเจ้าของห้องชุด ของคอนโดหรูแห่งหนึ่ง แถวถนนพญาไท ห้องชุดของท่านอยู่ในชั้นที่ 15 จากทั้งหมด 35 ชั้น 250 ยูนิต มีลิฟท์ขนคน 3 ตัว และมีลิฟท์ขนของ 1 ตัว ท่านซื้อห้องชุดจากผู้ประกอบการชื่อดังด้านอาคารชุดในราคา 5 ล้านบาท (ขนาดห้อง 58 ตร.เมตร) ห้องชุดมีห้องน้ำ 2 ห้อง ห้องแรกอยู่ใกล้ประตูทางเข้าออก ประตูทางเข้าออกอยู่ใกล้กับลิฟท์ขนคนทั้ง 3 ตัว ระดับพื้นห้องชุดกับระดับทางเดินนอกห้อง หรือทางเดินส่วนกลาง และทางเดินหน้าลิฟท์ ไม่ต่างกันมาก พื้นห้องของท่านสูงกว่านิดเดียว เพราะผู้ประกอบการปูพื้นลามิเนต (แต่พื้นห้องน้ำมีระดับต่ำกว่าพื้นห้องชุดที่ปูลามิเนต ประมาณ 7 ซม.)

                    ท่านพักอาศัยอยู่ในห้องชุดนี้ กับน้องชาย ซึ่งเป็นนักศึกษาแพทย์ รพ.รามาธิบดี ห้องน้ำห้องแรกนี้ ท่านและน้องชายไม่เคยใช้งานเลยตั้งแต่ซื้อและอยู่อาศัยมา ปิดไว้ตลอดกับทำความสะอาดเป็นครั้งคราว     2 ปี 4 เดือน หลังจากรับโอนห้องจากผู้ประกอบการอาคารชุดมา ได้เกิดเหตุเป็นคดีนี้ขึ้น

                    วันนั้น สายน้ำดีของอ่างล้างหน้า ในห้องน้ำห้องแรกแตก น้ำล้นห้อง ไหลออกประตูทางเข้าออก และไหลนองทางเดินส่วนกลางหน้าห้อง สุดท้ายไหลลงลิฟท์ตัวที่ 3 ลิฟท์เสียหายใช้การไม่ได้ ต้องซ่อมถึง 10 วัน บริษัทประกันภัยจ่ายสินไหมทดแทนค่าซ่อมลิฟท์ และจ่ายค่าสินไหมทดแทนค่าซ่อมพื้นห้องและอุปกรณ์ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์น๊อกดาวน์ให้ท่านแล้ว

                    3 วันก่อนหน้านี้ ท่านบอกว่าบริษัทประกันภัยฟ้องท่านเรียกค่าเสียหาย ค่าซ่อมลิฟท์จำนวน 2.9 แสนบาท ตามหลักการรับช่วงสิทธิ โดยอ้างว่า ท่านกระทำโดยประมาทไม่ดูแลรักษาท่อน้ำทิ้งให้อยู่ในสภาพดี ทำให้ท่อแตก น้ำท่วมไหลลงลิฟท์ แต่บริษัทประกันไม่เรียกค่าเสียหาย ค่าซ่อมพื้นห้องและเฟอร์นิเจอร์น๊อกดาวน์ในห้องของท่าน ท่านถามว่า

1.  ท่านต้องรับผิดชอบจ่ายค่าสินไหมคืนแก่บริษัทประกันภัยหรือไม่

2.  ท่านจะให้การสู้คดีในศาลอย่างไร

3.  ถ้าบริษัทประกันภัยเรียกค่าเสียหายแค่ 80% ท่านควรจะยอมรับเพื่อประนีประนอมให้กันหรือไม่

ตอบ

เรื่องนี้เป็นคดีที่น่าสนใจมากที่สุดคดีหนึ่ง ทีมทนาย Thai Law Consult อันประกอบด้วย พี่ตุ๊กตา ทนายณุมาพร พัฒนพงศธร น.บ.ท.64 จึงรับว่าความในคดีนี้ และเรียบเรียงเรื่องนี้ขึ้นเพื่อเป็นความรู้ทางกฎหมายสู่ประชาชน

หลักกฎหมายมีดังนี้

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

          มาตรา 861 อันว่าสัญญาประกันภัยนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่ง ตกลงจะใช้ค่าสินไหมทดแทน หรือใช้เงินจำนวนหนึ่งให้ในกรณีวินาศภัย หากมีขึ้น หรือในเหตุอย่างอื่นในอนาคตดั่งได้ระบุไว้ในสัญญาและใน การนี้บุคคลอีกคนหนึ่งตกลงจะส่งเงินซึ่งเรียกว่าเบี้ยประกันภัย

          มาตรา 862 ตามข้อความในลักษณะนี้

          คำว่า "ผู้รับประกันภัย" ท่านหมายความว่า คู่สัญญาฝ่ายซึ่งตกลง จะใช้ค่าสินไหมทดแทน หรือใช้เงินจำนวนหนึ่งให้

          คำว่า "ผู้เอาประกันภัย" ท่านหมายความว่า คู่สัญญาฝ่ายซึ่งตกลง จะส่งเบี้ยประกันภัย

          คำว่า "ผู้รับประโยชน์" ท่านหมายความว่า บุคคลผู้จะพึงได้รับค่า สินไหมทดแทน หรือรับจำนวนเงินใช้ให้

          อนึ่ง ผู้เอาประกันภัยและผู้รับประโยชน์นั้น จะเป็นบุคคลคนหนึ่ง คนเดียวกันก็ได้ 

          มาตรา 877 ผู้รับประกันภัยจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนดั่งจะกล่าว ต่อไปนี้ คือ

          (1) เพื่อจำนวนวินาศภัยอันแท้จริง
          (2) เพื่อความบุบสลายอันเกิดแก่ทรัพย์สิน ซึ่งได้เอาประกันภัยไว้ เพราะได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องปัดความวินาศภัย
          (3) เพื่อบรรดาค่าใช้จ่ายอันสมควร ซึ่งได้เสียไปเพื่อรักษาทรัพย์สิน ซึ่งเอาประกันภัยไว้นั้นมิให้วินาศ
อันจำนวนวินาศจริงนั้น ท่านให้ตีราคา ณ สถานที่และในเวลาซึ่ง เหตุวินาศภัยนั้นได้เกิดขึ้น อนึ่งจำนวนเงินซึ่งได้เอาประกันภัยไว้นั้น ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นหลักประมาณอันถูกต้องในการตีราคา เช่นว่านั้น
          ท่านห้ามมิให้คิดค่าสินไหมทดแทนเกินไปกว่าจำนวนเงินซึ่งเอา ประกันภัยไว้ 

          มาตรา 879 ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดในเมื่อความวินาศภัย หรือเหตุอื่นซึ่งได้ระบุไว้ในสัญญานั้นได้เกิดขึ้นเพราะความทุจริต หรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับ ประโยชน์

          ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดในความวินาศภัยอันเป็นผลโดยตรง มาแต่ความไม่สมประกอบในเนื้อแห่งวัตถุที่เอาประกันภัย เว้นแต่ จะได้ตกลงกันเป็นอย่างอื่น

          มาตรา 880 ถ้าความวินาศภัยนั้นได้เกิดขึ้นเพราะการกระทำของ บุคคลภายนอกไซร้ ผู้รับประกันได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนไปเป็นจำนวน เพียงใด ผู้รับประกันภัยย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัย และ ของผู้รับประโยชน์ซึ่งมีต่อบุคคลภายนอกเพียงนั้น

          ถ้าผู้รับประกันภัย ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนไปแต่เพียงบางส่วนไซร้ ท่านห้ามมิให้ผู้รับประกันภัยนั้น ใช้สิทธิของตนให้เสื่อมเสียสิทธิของ ผู้เอาประกันภัย หรือผู้รับประโยชน์ ในการที่เขาจะเรียกร้องเอา ค่าสินไหมทดแทนจากบุคคลภายนอกเพื่อเศษแห่งจำนวนวินาศนั้น 

พี่ตุ๊กตา และทีมทนาย Thai Law Consult ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นร่วมกับคุณหมอดังนี้

1. จากตารางกรมธรรม์ประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน จำนวนเงินเอาประกันภัย 1,300 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยต่อปี 1.2 ล้านบาท ทรัพย์สินที่เอาประกันภัยคือ

1.1 ทรัพย์สินส่วนกลาง : สิ่งปลูกสร้างตัวอาคาร (รวมฐานราก) รวมทั้งโครงสร้างต่างๆ ระบบดับเพลิง ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ระบบลิฟท์ ระบบสื่อสาร ระบบสาธารณูปโภค รวมทรัพย์สินต่างๆที่เป็นทรัพย์สินส่วนกลางของนิติบุคคลอาคารชุด (ยกเว้นทรัพย์สินที่เป็นของเจ้าของห้องชุด)

1.2 ทรัพย์สินส่วนของเจ้าของห้องชุดหรือผู้เช่าอาคารชุด : ไม่เกิน 2 แสนบาทต่อห้องชุด จำนวน 250 ห้อง และคุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อหนึ่งครั้ง และตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย

1.3 ความคุ้มครอง : คุ้มครองการเสี่ยงภัยทุกชนิด (All Risks) รวมถึงภัยความเสียหายจากภัยเนื่องจากน้ำ (ไม่รวมน้ำท่วม)

2. มีข้อสังเกตุว่า ก่อนเกิดเหตุ เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของบริษัทบริหารอาคารจากบริษัท K เป็นบริษัท P ดังนั้น ช่างประจำอาคาร ซึ่งขึ้นไปสำรวจความเสียหาย เขียนรายงานว่า น่าจะเกิดจากคุณหมอไม่ดูแลรักษาสายท่อน้ำดีให้อยู่ในสภาพดี ทำให้น้ำไหลท่วมห้องและท่วมลิฟท์ การเกิดเหตุหาได้เกิดจากความประมาทของช่างประจำอาคาร หรือนิติบุคคลอาคารชุดไม่ เพราะได้ดูแลจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างดีแล้ว แต่น้ำจากห้องของคุณหมอยังไหลลงลิฟท์

2.1 ข้อเท็จจริงปัจจุบัน บริษัทรับเหมาบริหารอาคารได้เปลี่ยนจากบริษัท K มาเป็นบริษัท P แล้ว ช่วงที่เกิดเหตุ กรรมการของนิติบุคคลอยู่ระหว่างประเมินผลการดำเนินการของบริษัท K ว่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่จะต่อสัญญาให้บริหารอาคารชุดต่อไปหรือไม่

2.2 ข้อเท็จจริงอีกอย่าง คือ คุณหมอและพี่ตุ๊กตาได้ลองเทน้ำลงท่อน้ำทิ้งในห้องน้ำแรก ปรากฏว่า น้ำไม่ไหลลงท่อ จึงให้ช่างประจำอาคารล้วงท่อ พบว่า มีเศษปูน เศษอิฐ จำนวนมากอุดท่อระบายน้ำทิ้ง (คาดว่า คนงานพม่า ของบริษัทรับเหมาก่อสร้างอาคารชื่อ ส.ฟ. น่าจะมักง่าย กวาดเศษปูน เศษอิฐ ลงท่อระบายน้ำ เมื่อคุณหมอเข้าอยู่อาศัยไม่เคยใช้ห้องน้ำนี้เลย จึงไม่พบปัญหา เมื่อเกิดอุบัติเหตุน้ำรั่วจากท่อน้ำดี น้ำจึงไหลลงระบบระบายน้ำทิ้งของส่วนกลางไม่ได้ น้ำจึงไหลนองห้อง ล้นออกทางประตู และสุดท้ายไหลลงลิฟท์

2.3 คุณหมอตั้งข้อสังเกตว่า ตอนเกิดเหตุ นิติบุคคลโดยบรษัท K ผู้รับจ้างบริหารอาคาร ทำไมไม่ปิดวาล์วน้ำภายนอกห้อง ซึ่งทางนิติฯ มีกุญแจวาล์วน้ำของห้องคุณหมอ

2.4 คุณหมอตั้งข้อสังเกตว่า ตอนเกิดเหตุ ทำไมนิติฯ ซึ่งมีช่าง 2 คน แม่บ้าน 8 คน ผู้จัดการอาคาร และพนักงานต้อนรับหน้าเคาน์เตอร์ อีก 4 คน ไม่รีบซับน้ำหรือป้องกันไม่ให้น้ำซึ่งไหลนองทางเดินส่วนกลางของชั้นที่ 15 อย่าให้ไหลลงลิฟท์ (ทุกชั้นมีกล้องวงจรปิดหลายตัว ทำไมพนักงานหรือช่างที่ดูแลระบบวงจรปิด จึงตรวจไม่พบน้ำที่ไหลนองทางเดินกลางของชั้นที่ 15 ตั้งแต่ต้น)

คุณหมอได้เข้ามาปรึกษาทีมทนาย Thai Law Consult ซึ่งรวมตัวกันอยู่ที่สำนักงาน เพื่อให้คำปรึกษาแก่จำเลยซึ่งถูกฟ้องคดีข้อหา ยักยอกรถยนต์ isuzu MU-7 รุ่น super platinum ทีมทนาย Thai Law Consult มีความเห็นดังนี้

1. การที่บริษัทประกันภัยจะรับช่วงสิทธิได้ ต้องเป็นไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 880 คือ "ถ้าความวินาศภัยนั้นได้เกิดขึ้นเพราะการกระทำของ บุคคลภายนอกไซร้ ผู้รับประกันได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนไปเป็นจำนวน เพียงใด ผู้รับประกันภัยย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัย และ ของผู้รับประโยชน์ซึ่งมีต่อบุคคลภายนอกเพียงนั้น" แต่คุณหมอเป็นลูกบ้านของนิติบุคคล เมื่อนิติบุคคลเอาประกันภัยกับบริษัทประกันภัย โดยคุณหมอชำระค่าส่วนกลาง และค่าส่วนกลางนี้ นิติฯ นำไปชำระเบี้ยประกันภัยให้แก่บริษัทประกันภัยแล้ว นิติบุคคลอาคารชุด จึงเป็นตัวแทนของคุณหมอหรือลูกบ้านในการทำประกันหรือเอาประกันกับบริษัทผู้รับประกัน

ดังนั้น คุณหมอจึงไม่ใช่บุคคลภายนอกของสัญญาประกันภัย หรือกรมธรรม์ประกันภัย บริษัทประกันภัยจึงรับช่วงสิทธิ์ไล่เบี้ยผู้เอาประกันภัยไม่ได้

2. พี่ตุ๊กตา น.บ.ท.64 แจ้งกับคุณหมอและคุณพ่อของคุณหมอว่า ได้ปรึกษาคดีนี้กับทนายอื่นอีก 3 ท่าน ทั้ง 3 ท่านมีความเห็นว่า คุณหมอเป็นฝ่ายประมาท ไม่ระมัดระวังบำรุงรักษาทรัพย์สินให้อยู่ในสภาพใช้งาน ต้องชดใช้ตามที่บริษัทประกันภัยฟ้อง แต่น่าสังเกตดังนี้

2.1 บริษัทประกันภัยได้จ่ายค่าสินไหมทดแทน ทั้งการซ่อมแซมห้องชุดของคุณหมอและการซ่อมลิฟท์ แสดงว่า บริษัทประกันภัย ยอมรับว่า การเกิดเหตุครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความทุจริต หรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัยหรือของผู้รับประโยชน์ เพราะป.พ.พ.มาตรา 879 วางหลักไว้ว่า "ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดในเมื่อความวินาศภัย หรือเหตุอื่นซึ่งได้ระบุไว้ในสัญญานั้นได้เกิดขึ้นเพราะความทุจริต หรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับ ประโยชน์          ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดในความวินาศภัยอันเป็นผลโดยตรง มาแต่ความไม่สมประกอบในเนื้อแห่งวัตถุที่เอาประกันภัย เว้นแต่ จะได้ตกลงกันเป็นอย่างอื่น"

2.2 ผู้เอาประกันภัย คือ นิติบุคคลอาคารชุด ได้เอาประกันภัยทั้งส่วนของเจ้าของร่วมหรือเจ้าของห้องชุดหรือของผู้เช่า และส่วนที่เป็นทรัพย์สินส่วนกลาง แทนเจ้าของห้องชุดแล้ว เจ้าของห้องชุดจึงเป็นบุคคลภายในของสัญญาประกันภัยนี้ ซึ่งตามกฎหมายประกันภัย ไม่มีบทบัญญัติใดให้สิทธิผู้รับประกันภัยไล่เบี้ยจากผู้เอาประกันภัย

2.3 แม้คำฟ้องจะเขียนได้สวยและมีเหตุผลว่า คุณหมอประมาท แต่คุณหมอไม่ต้องชดใช้ให้บริษัทประกันภัยตามคำฟ้อง คดีนี้ มีทางเดียวเท่านั้น คือ ศาลท่านยกฟ้อง

3. ทนายน้อย ปราธูป ศรีกลับ น.บ.ท.64 ให้ความเห็นว่า คำฟ้องเรียกค่าเสียหายจากคุณหมอ 2.9 แสนบาท เมื่อขึ้นศาล ศาลท่านให้เข้าห้องไกล่เกลี่ยก่อนเสมอ ตามที่คุณพ่อของคุณหมอบอกว่า ถ้าเขาเรียก 80% จะสู้คดีถึงที่สุด แต่ถ้าเขาเรียกมาแค่ 5 หมื่นบาท จะยอมจ่ายให้มันจบๆ ไป อยู่กับคดีหรือมีคดีมาก มีความเครียด ลดทอนกำลังวังชาในการทำมาหากินนั้น ทนายน้อยเห็นด้วย ถ้าจ่ายแค่ 5 หมื่นบาท แล้วโจทก์หรือบริษัทประกันภัยถอนฟ้อง

4. พี่ตุ๊กตา ทนายณุมาพร พัฒนพงศธร น.บ.ท.64 สรุปว่า คดีนี้ ศาลต้องยกฟ้องแน่ ถ้าฝ่ายจำเลยสามารถนำพยานบุคคลดังต่อไปนี้มาสืบช่วย

4.1 นายหน้าประกันวินาศภัย หรือ Broker ประกันภัย

4.2 นักวิชาการด้านประกันภัย หรือ นิติกรของ คณะกรรมการประกันภัย (คปภ.)

4.3 ประธานกรรมการหรือกรรมการของนิติบุคคลที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการเอาประกันภัย โดยนำสืบให้เห็นเจตนาในการเอาประกันภัยว่า นิติบุคคลเอาประกันภัยแทนเจ้าของร่วมหรือลูกบ้านทุกคนรวมทั้งคุณหมอด้วยแล้ว (คุณหมอเป็นบุคคลภายใน ไม่ใช่บุคคลภายนอกของสัญญาประกันภัย)

5. ประธานกรรมการน่าจะออกหนังสือถึงผู้จัดการของบริษัทรับประกันภัย (ชื่อเล่นว่า "นิว") ให้ช่วยพิจารณาผ่อนผันหรือยกเว้นการรับช่วงสิทธิความเสียหายคืนจากคุณหมอด้วยเหตุผลด้านกฎหมาย ข้อเท็จจริง และแนวทางการตลาด เพื่อสร้างความประทับใจแก่ผู้เอาประกัน ซึ่งก็คือนิติบุคคล เพื่อให้นิติบุคคลเป็นลูกค้าในระยะยาว อย่าลืมว่าลูกค้าที่ส่งเบี้ยประกันปีละ 1.2 ล้านบาท มีไม่มากราย

6. สรุปว่า ทนายของคุณหมอต้องเขียนคำให้การว่า คุณหมอเป็นผู้เอาประกัน เป็นบุคคลภายใน หาใช่บุคคลภายนอกไม่ บริษัทประกันจึงไม่อาจรับช่วงสิทธิ เรียกคืนค่าเสียหายจากคุณหมอ และต้องให้การด้วยว่า การที่น้ำไหลท่วมห้องคุณหมอ จนนองพื้นทางเดินกลางและไหลลงลิฟท์ เป็นความประมาทซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของนิติบุคคล ที่ต้องดูแลไม่ให้น้ำจากห้องชุดไหลนองพื้นที่ทางเดินกลาง และไหลลงลิฟท์ และต้องให้การอีกว่า เป็นความบกพร่องของช่างและนิติบุคคลที่ไม่ปิดวาล์วน้ำภายนอกห้องของคุณหมอให้ทันท่วงที

7. พี่ตุ๊กตา ได้แจ้งคุณหมอว่า วันไกล่เกลี่ย พี่ตุ๊กตาจะไปช่วยเจรจาตามความประสงค์ของคุณพ่อคุณหมอ หรือถ้าไกล่เกลี่ยไม่ได้ ก็นัดสืบพยานกัน แต่การไกล่เกลี่ยหรือยอมความให้แก่กัน โดยพ่อคุณหมอต้องจ่าย 80% พี่ตุ๊กตาไม่เห็นด้วย

8. นิติบุคคล หรือ คอนโดมิเนียม หรือ อาคารชุดใด มีปัญหาที่ต้องฟ้องหรือถูกฟ้องเป็นคดี ทีมทนาย ThaiLawConsult ยินดีให้คำปรึกษา ติดต่อพี่ตุ๊กตามานะคะ โทร. 098-915-0963 numaphon@gmail.com