ทนายณุมาพร พัฒนพงศธร น.บ.ท.64 ผู้เรียบเรียง
ยกหูถึง "พี่ตุ๊กตา"

 

เรื่องที่ 56      การได้ภาระจำยอมโดยอายุความ ป.พ.พ. 1401 - ตัวอย่างคดี


                    

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัย คำร้องแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับที่มา ส.ว. ผลเป็นอย่างไร ประชาชนคงทราบกันแล้ว แต่ไม่ถึงขั้นตัดสิทธิทางการเมือง และไม่ยุบพรรค ทำให้สังคมไทย ผ่อนคลายความขัดแย้ง และเงื่อนไขในการล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ของม็อบ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นำโดย สุเทพ เทือกสุบรรณ (เมื่อคืนนี้ คนเสื้อแดงจำนวนมาก ชุมนุมกันที่รัชมังคลาสถาน หรือ สนามกีฬาหัวหมาก เพื่อสนับสนุนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินอย่างเป็นธรรม)

วันนี้ ทีมทนาย Thai Law Consult รวมตัวกันที่ สำนักงานทนายความ เพื่อให้คำปรึกษา คดีจัดซื้อจัดจ้าง ความผิดวินัย อย่างร้ายแรง ทุจริตต่อหน้าที่ราชการ เมื่อเสร็จการปรึกษาคดี จึงช่วยกันเขียนบทความนี้ และตอบคำถามทางอีเมล์ของประชาชนทุกคดี ที่เกี่ยวกับเรื่องที่ดิน โดยพี่ตุ๊กตาได้ตอบไปเบื้องต้นทางโทรศัพท์ทุกรายแล้ว

 

หลักกฎหมาย ป.พ.พ.

มาตรา 1382 บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบ และโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบ ครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกัน เป็นเวลาห้าปีไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์ 

มาตรา 1401 ภารจำยอมอาจได้มาโดยอายุความ ท่านให้นำบทบัญญัติ ว่าด้วยอายุความได้สิทธิอันกล่าวไว้ในลักษณะ 3 แห่งบรรพนี้มาใช้บังคับโดยอนุโลม

 

ขออภัยนะคะ ทนายไม่ว่าง จึงพิมพ์ไม่ทัน ติดเตรียมคดี อดใจรอสักนิดนะคะ

มติเสียงข้างมากศาลรธน.วินิจฉัยปมแก้ที่มาส.ว."ขัดรัฐธรรมนูญ" แต่ไม่ถึงขั้นต้องยุบพท.-5พรรคร่วมรบ.

วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 14:13:09 น.

 







 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน 2556   ศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำวินิจฉัยในการพิจารณาคำร้องที่ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา กับคณะ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กับคณะ นายสาย กังกเวคิน ส.ว.ระยอง กับคณะ และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป. กับคณะ  ยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานรัฐสภา กับพวก รวม 312 คน ร่วมกันเข้าชื่อเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มาของ ส.ว. ไม่ชอบทั้งในเชิงรูปแบบ กระบวนการ และเนื้อหาอันเป็นสาระสำคัญ ว่าถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง หรือไม่   โดยคำร้องของพล.อ.สมเจตน์ ได้ขอให้ยุบพรรคการเมืองและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องด้วย

 

ทั้งนี้ ศาลได้พิจารณาสาระสำคัญในคำวินิจฉัย 4 ประเด็น โดยเห็นว่า ศาลรธน.มีอำนาจในการวินิจฉัยกรณีดังกล่าว    พร้อมกันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ ยังมีมติ 5 ต่อ 4  ชี้ว่า การร่วมกันเข้าชื่อเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มาของ ส.ว.นั้น  ขัดต่อ มาตรา 68 แต่ไม่ถึงขั้นต้องยุบพรรคเพื่อไทยและ5พรรคร่วมรัฐบาล  พร้อมกับมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยว่า   กระบวนการพิจารณาคดีไม่ชอบ ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 122, 125, 126, และ 291  

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข้อเท็จจริง